เมื่อคืนวานฉันยังนั่งเตรียมของจะมาอยู่หอจนดึก มันตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะต้องมาอยู่
ไกลบ้านนานๆ ต้องไปอยู่กับใครที่ไม่รู้จัก ต้องเริ่มสังคมใหม่ใช้ชีวิตด้วยตัวเองเพียงลำพัง เมื่อฉันสอบติดคณะ
วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรคนแถวบ้านถามฉันว่าทำไมต้องไปอยู่หอในเมื่อบ้านก็อยู่แค่นี้(แถวจรัญสนิทวงศ์)
ฉันตอบว่าฉันสอบติดคณะวิทยาศาสตร์ อยู่ที่วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ คนพวกนั้นต่างทำหน้างงๆ
ซึ่งก็คงเหมือนฉันในตอนแรกที่ได้รู้จักคณะนี้จากอาจารย์แนะแนวที่โรงเรียนเก่า
นั่งรถปรับอากาศประจำทางมาชั่วโมงกว่าๆ จากสถานีขนส่งสายใต้ ข้าวของพะรุงพะรัง ก้าวแรกที่ก้าวผ่านรั้ว
มหาวิทยาลัยศิลปากร ความรู้สึกแรกคือ แน่ใจนะว่านี่ คือที่ ๆ ฉันจะมาเรียน มาเอาใบปริญญาเหมือนมารีสอร์ต
ฉันขนของ มาเพื่อพักผ่อน ผู้คนปั่นจักรยาน แต่งตัวตามสบาย กางเกเลหลากสี ที่ติดกับต้นไม้ใบเขียวด้านซ้าย
เป็นสนามฟุตบอล ด้านขวาเป็นสวนหย่อมติดริมสระน้ำ ลุงยามยิ้มให้อย่างเป็นมิตรกล่าวต้อนรับเปิดเทอม
อย่างเบิกบาน ฉันเดินเลาะสวนหย่อมไปเรื่อย ๆ กริ๊ง ๆ "น้องไปกับพี่ไหมคะ อยู่หอไหนพี่จะไปส่ง"
ฉันลังเลเล็กน้อยก่อนบอกว่า "อยู่หอเพชรรัตน์ 4" แล้วขึ้นจักรยานพี่คนนั้นไป
ฉันถึงหอพักแล้ว จัดข้าวของแล้ว แต่เพื่อนร่วมห้องยังไม่มา ฉันเตรียมผ้าถุงมาเพื่อใช้ผลัดอาบน้ำ เพราะคิดว่า
ห้องน้ำรวมคงหมายถึง มีอ่างใส่น้ำใหญ่ ๆ แล้วล้อมวงอาบ แต่กับสบายกว่าที่คิดเยอะ ผ้าถุงผืนนั้นเลยนอนแห้งคาตู้
จนกระทั่งจบปี 4
วันรุ่งขึ้นฉันไปซื้อจักรยานที่ตลาด ฉันปั่นสำรวจมหาวิทยาลัยตากแดดจนตัวเกรียม จำได้ว่าวันแรกไปตั้งต้น
ที่ป้อมยามหน้ามหาวิทยาลัย ด้านถนนราชมรรคาตรงไปยังสี่แยกตึก 50 ปี ผ่านคณะอักษรศาสตร์ หน้าคณะมี
ศาลเจ้าที่ของมหาวิทยาลัย ตรงข้ามเป็นสระแก้ว ปั่นจักรยาน
ตรงไปเรื่อย ๆ ผ่านโรงอาหารสระแก้ว หรือที่นักศึกษาเรียกติดปากว่า "ยูเนี่ยน" ข้างบนเป็นที่ทำการสโมสร
นักศึกษาและชมรมต่าง ๆ ถัดมาอีกตึกเป็นศูนย์เรียนรวม 2 เป็นชื่อที่ฝ่ายโครงงานและสถานที่เรียก หอประชุม
เป็นชื่อที่อยู่ในตารางสอนและตึกกระทะเป็นชื่อที่พวกเราเรียกกัน
ด้านหลังของตึกกระทะเป็นส่วนของคณะเภสัชศาสตร์ ปั่นจักรยานตรงไปอีกหน่อยเป็นศูนย์คอมพิวเตอร์
และหอสมุดวิทยาเขต พระราชวังสนามจันทร์ ซึ่งตอนนี้ได้มีอาคารหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล สร้างเพิ่มขึ้นมา
ภายในอาคารจัดเป็นที่บริการคอมพิวเตอร์ หอสมุด สื่อวิดีทัศน์ต่างๆ และเป็นหอจดหมายเหตุของมหาวิทยาลัย
ศิลปากร ด้านหลังมีบ่อบำบัดน้ำเสีย
ถัดไปเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ฝั่งตรงข้ามของหอสมุด และศูนย์คอมพิวเตอร์
เป็นคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งฉันจะต้องมาเรียนในอีกไม่ช้า ฉันแวะเข้าไปสำรวจ มีอาคาร ว.1 - ว.4 ซึ่งขณะนั้นกำลัง
ก่อสร้างอาคารเรียนรวมวิทยาศาสตร์ หรือ "ร.ว.ท." อาคารเก็บสารเคมี และอาคารปฏิบัติการฟิสิกส์ ใหญ่โตจริง
แต่เงียบเหงามาก คงเป็นเพราะยังไม่เปิดเทอม ฉันปั่นจักรยานต่อไปตามถนน
ใกล้จะเที่ยงเต็มทีท้องเริ่มร้อง ฉันปั่นจักรยานเลาะไปหลังหอเพชรรัตน์ 4 ซึ่งขนานกับหอเพชรรัตน์ 3
ตรงไปยังร้านอาหารเพชรรัตน์ หรือที่เรียกกันติดปากว่า เพชรช๊อบ เพื่อนยามยากของเด็กหอ บรรยากาศดี
ริมบึงลานนมร่มรื่น (ลานโล่งที่มีร้านขายนมแสนอร่อย)
ในระแวกนั้นนอกจากมีหอเพชรรัตน์ 1 - 6 ซึ่งเป็นหอพักหญิงแล้ว ยังมีโรงเก็บเครื่องมือ และบ้านจักรยาน
ร้านซ่อมจักรยานที่ช้าที่สุดในประเทศไทย แต่เป็นอู่ที่ทันสมัยที่สุดแล้วสำหรับจักรยานในมหาวิทยาลัย
เมื่ออิ่มท้องแล้วสองขาก็ปั่นจักรยานต่อไปตามทางเดิมเมื่อกี้ เลี้ยวขวาเพื่อเข้ามาทางเพชนรัตน์ 1 - 6 แต่ถ้า
เลี้ยวซ้ายจะเป็นหอทับแก้ว 3 หอพักชายที่ไม่เคยหลับไหล บริเวณนี้มีโรงยิม สนามเปตอง สนามบาส สนามฟุตบอล
คอร์ดเทนนิสหรือที่เรียกรวม ๆ ว่า Sport Complex ศูนย์รวมนักศึกษายามที่ไม่มีที่ไป เหงาพวกเราก็ไป
ออกกำลังกายกัน
ปั่นจักรยานจนสุดรั้วมหาวิทยาลัยถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นอาคารศิลป์พีระศรี 1,2 และ 3 ซึ่งเป็นที่เรียนของ
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ปี1 และคณะจิตรกรรมชั้นปีสูง ๆ ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นโรงพิมพ์มหาวิทยาลัย
ถัดไปหน่อยเป็นบ้านพัก บุคลากรในมหาวิทยาลัย ตึกขั้นและโรงงานของคณะมัณฑณศิลป์ ปั่นจักรยานต่อไป
ตามทางหลังหอเพชรรัตน์ 1,2 และ 6 เลาะไปยังสระแก้ว ระหว่างทางมีบ้านไทยสมัย ร.6 ทรุดโทรม
ดูวังเวง ผ่านหลังคณะวิทยาศาสตร์ ผ่านบ้านจักรยาน ข้ามสะพานไปตรงเนินวิดยา ผ่านเกาะนกไปยังหอ
ทับแก้ว 2 ซึ่งเป็นหอชายและหอทับแก้ว 1 หอหญิงที่อยู่ติดกัน เลาะรอบสระแก้วไปเรื่อยๆ ด้านซ้ายมือเป็น
คณะศึกษาศาสตร์ ตึกอธิการบดี และกองกิจการนักศึกษา ที่บริการข้อมูลข่าวสารต่างๆ ตรงนั้นมีห้องพยาบาลแอบ
อยู่ด้วย ด้านขวามือตรงข้ามตึกอธิการบดีเป็นอาคารวัชรนาฎยสภา หรือ A4 ซึ่งเป็นอาคารที่ใช้จัดแสดงต่างๆ เช่น
ดนตรี ละครเวที เป็นต้น
ถัดไปนิดหนึ่งคือสะพานข้ามสระแก้ว คุณเชื่อไหมที่ตรงนั้นทำให้ลืมได้ทุกอย่างเหมือนหลุดมาอยู่อีกโลกหนึ่ง
ที่นี่แหละคือสวรรค์กลางมหาวิทยาลัย ปั่นจักรยานเลยไปอีกนิดจะเป็น 3 แยก ตรงกลางมีวงเวียนที่มีปฏิมากรรม
สีแดงตั้งอยู่ ด้านตรงข้ามเป็นร้านอาหารสระแก้วบรรยากาศดี ข้าง ๆ มีสนามเปตอง
จากวงเวียนถ้าเลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปจะผ่านสนามแบดมินตันและตระกร้อ บ้านพักอาจารย์ เลยไปอีกนิด
จะเป็นด้านหน้าของคณะศึกษาศาสตร์ ด้านตรงข้ามคณะศึกษาศาสตร์เป็นโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยศิลปากร
มีสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐาน และสนามกีฬาอีกหลายชนิดที่นักศึกษาเข้าไปใช้ได้และสุดทางเป็นประตูออก
ไปสู่พระราชวังสนามจันทร์
กลับมาที่วงเวียนถ้าเลี้ยวขวาตรงไปยังสี่แยกหน้าตึก 50 ปี ด้านซ้ายตรงไปประตูออกสู่ถนนราชมรรคา
ตรงไปเป็นบ้านพักอาจารย์มีถนนเชื่อมต่อไปยังคณะเภสัชศาสตร์
ถ้าเลี้ยวขวาก็จะกลับไปที่หน้ายูเนี่ยนเช่นเดิม ตรงข้ามยูเนี่ยนมีศาลา 8 เหลี่ยม สมัย ร.6 ซึ่งพวกเราเรียกว่า
ศาลาสระแก้ว ร่มรื่นและเย็นสบายใต้ร่มไม้ มีลมพัดเอาไอน้ำจากสระแก้วขึ้นมาให้ชุ่มช่ำหัวใจ สี่โมงเย็นแล้วฉันปั่น
จักรยานไปยัง 7-eleven ซึ่งเป็นศูนย์รวมความบันเทิงในมหาวิทยาลัย ซึ่งเดี๋ยวนี้อยู่บริเวณใต้อาคารหม่อมหลวงปิ่น
มาลากุล นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารริมบึง ตั้งอยู่ตรงนั้นด้วย เหนื่อยแสนเหนื่อยที่ปั่นจักรยานวนไปวนมา
ในมหาวิทยาลัย เนื่องจากถนนเชื่อมถึงกันหมด ต้นไม้ใหญ่ร่มครึม นกน้อยส่งเสียงร้อง กระรอกกระโดดข้ามไปมา
บนต้นไม้ และสัตว์ประจำมหาวิทยาลัย ตัวเงินตัวทองก็เดินมาบนถนนให้อวดโฉมให้เห็น กว่าฉันจะลากสังขาร
อันหนักอึ้งไปบนหอชั้น 3 ได้ ทรมานแทบตาย แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่จำไม่ลืม แม้วันนี้มหาวิทยาลัยจะเปลี่ยนไปบ้าง
ต้นไม้น้อยลงรถเพิ่มขึ้น และถนนที่กว้างกว่าเดิมในบางช่วงก็ไม่ได้ทำให้ฉันรักมหาวิทยาลัยน้อยลง
และวันนี้ฉันปั่นจักรยานคันเก่าไปรับน้องใหม่ที่หน้ามหาวิทยาลัย ความรู้สึกของน้องคงไม่ต่างจากฉันในวันนั้น
ฉันสั่นกระดิ่งกริ๊งๆ "น้องไปกับพี่ไหมคะ อยู่หอไหนพี่จะไปส่ง"
เรียบเรียงโดย... นางสาวนนท์ชยา นาคชัง
|